ข่าว

ชมฝนดาวตกโอไรออนิดส์ เศษฝุ่นจากดาวหางฮัลเลย์ ในคืนวันที่ 21 ถึงเช้าวันที่ 22

รอชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ได้ในคืนวันที่ 21-22 ตุลาคมนี้ และชมดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ได้ตลอดเดือนตุลาคม

Sriwalee Lakmuang
เขียนโดย
Sriwalee Lakmuang
Staff writer, Time Out Thailand
Orionid
Photograph: Nazarii_Neshcherenskyi / Shutterstock
การโฆษณา

ใครที่ชื่นชอบปรากฏการณ์ฝนดาวตกเป็นชีวิตจิตใจ หรือเฝ้ารอคอยที่จะชมให้ได้สักครั้ง ทาง สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ชวนชมดาวเคราะห์เด่นและปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าติดตามตลอดเดือนตุลาคมนี้ 

แน่นอนว่า ดาวเคราะห์เด่นของเดือนนี้คือ ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ ที่จะเริ่มปรากฏให้เห็นในเวลา 22.30 น. ของวันที่ 21 ตุลาคมไปจนถึงเช้าวันที่ 22 ตุลาคม 

Orionid
Photograph: Genevieve de Messieres / Shutterstock

ปกติแล้วฝนดาวตกโอไรโอนิดส์ (Orionid Meteor Shower) จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายนของทุกปี ตอนที่โลกได้เคลื่อนผ่านแนวเศษฝุ่นของดาวหางฮัลเลย์ (Halley’s Comet) หนึ่งในดาวหางที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งในปี 2025 นี้ ฝนดาวตกโอไรโอนิดส์จะถึงช่วงพีคในคืนวันที่ 21-22 ตุลาคมที่จะถึงนี้ สายดูดาวรอชมกันได้ 

เหตุที่กลุ่มดาว ‘โอไรโอนิดส์’ เป็นดาวเคราะห์เด่น นั่นก็เพราะมีที่มาจากกลุ่มดาวนายพราน (Orion) เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่เด่นและรู้จักกันมากที่สุดบนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และฤดูร้อนของซีกโลกใต้ มีชื่อมาจากนายพรานในตำนานกรีก โดยมีดาวสำคัญในกลุ่มดาวนายพราน ได้แก่ 1) Betelgeuse คือดาวยักษ์แดงที่เป็นไหล่ซ้ายของนายพราน 2) Rigel คือดาวสีน้ำเงินขาวที่เป็นเท้าขวา 3) Bellatrix คือดาวสว่างที่เป็นไหล่ขวา 4) Mintaka, Alnilam, Alnitak คือดาวสามดวงที่เรียงเป็นเส้นตรงเหมือนเข็มขัดของนายพราน และ 5) Saiph คือดาวสว่างที่เปรียบเสมือนเท้าซ้าย 

Orionid
Photograph: VCG / getty images

อย่างไรก็ตาม กลุ่มดาวนายพรานเป็นที่นิยมทั้งในด้านดาราศาสตร์และวัฒนธรรมของนักดูดาว เพราะไม่เพียงแต่สวยงาม ยังช่วยให้สังเกตเห็นปรากฏการณ์อย่างฝนดาวตกโอไรโอนิดส์ได้ง่ายขึ้น 

จริงๆ แล้วฝนดาวตกจะมองเห็นได้ทุกตำแหน่งบนท้องฟ้า ปีนี้จึงถือว่าเหมาะมากสำหรับการชม เพราะเป็นคืนที่ไม่มีแสงจันทร์รบกวน ทำให้ท้องฟ้ามืดสนิทและมองเห็นดาวตกชัดเจน ซึ่งฝนดาวตกโอไรโอนิดส์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในฝนดาวตกที่สว่างและเคลื่อนที่เร็วที่สุด โดยจะพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกด้วยความเร็วเกือบ 70 กิโลเมตรต่อวินาที และอาจมองเห็นได้มากถึง 20-30 ดวงต่อชั่วโมง

Orionid
Photograph: VCG / getty images

ส่วนเคล็ดลับการชมฝนดาวตกโอไรโอนิดส์ให้เต็มอิ่ม คือช่วงเวลาระหว่างเที่ยงคืนถึงรุ่งสาง รวมถึงการเลือกสถานที่ที่มืดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษอย่างกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องส่องทางไกล ซึ่งความลับคือการทอดสายตามองท้องฟ้าให้กว้างและไกลที่สุด อย่าลืมปรับสายตาให้ชินในความมืดก่อนประมาณ 30 นาที 

นอกจากฝนดาวตกโอไรออนิดส์ ยังมีปรากฏการณ์เด่นที่เริ่มดูได้ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม เช่น ดาวเสาร์เคียงดวงจันทร์ ดาวพฤหัสบดีเคียงดวงจันทร์ กระจุกดาวรวงผึ้งเคียงดวงจันทร์ หรือดาวชื่อเพราะพริ้งอย่างดาวแอนทาเรสเคียงดวงจันทร์อีกด้วย  

ติดตามข้อมูลและการชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกได้ที่ NARIT หรือข้อมูลแนะนำสำหรับสายซีเรียส อย่างการใช้กล้องดูดาวหรือการคำนวณเวลาตามตำแหน่งของพระอาทิตย์และดวงจันทร์ได้ที่ space.com

การโฆษณา