ข่าว

ทำไมแนวคิด 'ภาวะน่าสบาย' ของ Dusit Central Park จึงสำคัญกับพื้นที่แห่งใหม่ใจกลางเมือง

คิดว่าหลายคนคงคุ้นกับประโยคชวนให้คิดต่ออยู่ตรงขั้นบันไดเลื่อน MRT ลุมพินีฝั่งสาทร ที่ว่า เมืองดี…ที่ทุกหัวใจตั้งตารอ กันมาบ้างแล้ว

Sriwalee Lakmuang
เขียนโดย
Sriwalee Lakmuang
Staff writer, Time Out Thailand
Arhdaily
Photograph: Arhdaily
การโฆษณา

ประโยคที่ว่าแม้จะเป็นสโลแกนของ Bangkok One แต่ก็ปรากฏท่ามกลางย่านการค้าสำคัญในกรุงเทพฯ อย่างสีลมหรือลุมพินีได้กลมกลืน ย่านที่รวมแทบทุกอย่างในละแวกที่เดินไปไม่ไกลเดี๋ยวก็เจอ ซึ่งในย่านนี้กำลังจะผุดแลนด์มาร์กใหม่ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยก่อนหน้านี้ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิต ธานี) ได้ประกาศถึงการสร้างสวนลอยฟ้า หรือ Roof Park ใจกลางเมืองบนพื้นที่มิกซ์ยูสของโครงการ Dusit Central Park 

ส่วนที่ใช้คำว่า Roof Park เพราะอยากให้ล้อกับ Central Park ในนิวยอร์ก และ Hyde Park ในลอนดอน โดยคำนึงถึง 3 มิติหลัก เช่น มิติทางเศรษฐกิจในการดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ส่วนมิติทางสังคมเพื่อชวนคนเข้ามาใช้พื้นที่ตามไลฟ์สไตล์ และมิติทางระบบนิเวศ ที่เน้นไปยังเรื่องการลด PM2.5 และ PM10 หรือแนวคิดการใช้สอยพื้นที่ทางกิจกรรม เช่น มุมสังสรรค์ พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและเด็ก แม้แต่พื้นที่ในรูปแบบ Amphitheatre (ลานกว้างที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นเหมือนลานอัฒจรรย์) ไว้สำหรับจัดแสดงงานศิลปะ ดนตรี หรืองานมินิอีเวนต์ต่างๆ

Jeff Goldberg/ESTO
Photograph: Jeff Goldberg/ESTO

ที่น่าสนใจคือแนวคิดการใช้สอยพื้นที่นี้สอดคล้องกับ 'ภาวะน่าสบาย' หรือ Thermal Comfort ซึ่งเป็นแนวคิดย่อยของโครงการฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ด้วย โดยเฉพาะ Amphitheatre ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวโปร่งโล่งบนดาดฟ้า แถมยังเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมซึ่งยังหาได้ยากในกรุงเทพฯ 

แล้วถ้าถามว่าทำไมภาวะน่าสบายจึงสำคัญ นั่นอาจเชื่อมโยงไปถึงผลสำรวจอาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ (ที่มีตึกเยอะรุงรัง) ว่าอาคารส่วนใหญ่จะตั้งอุณหภูมิความร้อนต่ำกว่าความต้องการของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ที่อยู่ในอาคารอาจรู้สึกไม่สบายตัว หรือเกิดอาการ Sick Building Syndrom ได้ ซึ่งเมื่อนำภาวะน่าสบายของโครงการฯ เข้ามาเป็นตัวเลือกนี้ก็อาจช่วยกำหนดทิศทางลมหรือแสงแดดในระดับที่พอดีต่อพื้นที่บน Roof Park ได้

กลับมาขยายแนวคิดย่อยของโครงการฯ ที่พูดถึงภาวะน่าสบายกันต่อว่ามีความสำคัญต่อการสร้างพื้นที่สาธารณะในแบบ Roof Park อย่างไรบ้าง    

Jeff Goldberg/ESTO
Photograph: Jeff Goldberg/ESTO

ภาวะน่าสบาย คือความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมท่ามกลางอากาศที่ไม่พึงประสงค์ หรืออีกนัยหนึ่งคือการออกแบบภูมิอากาศขนาดย่อม (Micro Climat) ในสภาพอากาศเฉพาะพื้นที่หรือจุดย่อยต่างกันไป ที่ประกอบด้วยอุณหภูมิ สภาพอากาศ ความชื้น ลม หรือการกักเก็บความร้อน ยังมีการใช้องค์ประกอบเชิงภูมิสถาปัตย์หรือการจำลองพื้นที่เพื่อทดลองการถ่ายเทของอุณหภูมิหรือที่เรียกในเชิงสถาปัตย์ว่าหลุมหลบภัยทางอากาศอยู่ด้วย 

แม้ว่าภาวะน่าสบายจะเป็นแนวคิดย่อยในการออกแบบ Roof Park แล้ว แต่ปัจจัยของภาวะน่าสบายก็มีหลายปัจจัยที่ค่อนข้างซับซ้อนและคิดว่าสำคัญกับการสร้างพื้นที่สาธารณะ หลักๆ จะประกอบด้วย 4 ปัจจัย คือ อุณหภูมิของอากาศ ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในประเทศเขตร้อนชื้นเช่นที่ไทยควรอยู่ที่ราวๆ 23-29 องศาเซลเซียส ต่อมาเป็นความชื้นสัมพัทธ์ โดยปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมต่อภาวะน่าสบายจะอยู่ที่ร้อยละ 30-70 

dusitcentralpark
Photograph: dusitcentralpark

ในขณะเดียวกันความชื้นสัมพัทธ์ก็คือการวัดปริมาณของไอน้ำที่อยู่ในอากาศก็ได้ หรือแม้แต่ความเร็วลมที่ปะทะร่างกาย โดยความเร็วลมที่รู้สึกถึงภาวะน่าสบายจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 เมตรต่อวินาที ไม่เพียงแค่นั้นยังมีอุณหภูมิของพื้นผิวรอบๆ เช่น กระจกป้องกันความร้อน การออกแบบพื้นที่ใช้งาน เป็นต้น

ถัดไปเป็นองค์ประกอบเชิงภูมิสถาปัตย์ที่ใช้สร้างภาวะน่าสบาย เพื่อสอดรับกับภูมิอากาศขนาดย่อม เช่น แสงแดด ทิศทางของลม ซึ่งการนำแนวคิดย่อยอย่างภาวะน่าสบายมาใช้น่าจะทำให้พื้นที่สีเขียวบน Roof Park เกิดการเคลื่อนไหวต่อทิศทางลมได้ดีขึ้น รวมถึงทิศทางของแสงที่ช่วยบดบังความร้อนในอาคารด้วย 

ซึ่งสิ่งที่เป็นองค์ประกอบเชิงภูมิสถาปัตย์ ได้แก่ น้ำ ตัวช่วยในการปรับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและช่วยปรับอุณหภูมิในบริเวณพื้นที่นั้นๆ ให้สมดุล ถัดมาเป็นพืชพรรณสีเขียว อย่างไม้ยืนต้นที่ช่วยกำหนดทิศทางกระแสลมแถมยังช่วยควบคุมอุณหภูมิที่พัดเข้ามาในพื้นที่ไม่ให้มีกระแสลมแรงเกินไป ต่อไปเป็นพื้นที่เปิดหรือ Open Space ช่วยให้พัดพาความร้อนออกไปได้เร็ว ซึ่งจะแทนที่ด้วยอุณหภูมิอากาศที่พอดีแทน นอกจากนี้ยังรวมถึงวัสดุที่กักเก็บความชื้นและทนความร้อนได้ เช่น กรวด ราวกั้นไม้ระแนง การปูพื้นด้วยพื้นหญ้า ว่ากันไปต่างๆ

Jeff Goldberg/ESTO
Photograph: Jeff Goldberg/ESTO

ส่วนอีกตัวอย่างของภาวะน่าสบายที่น่าสนใจ และเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าเมืองที่ดีคือการออกแบบและแก้ปัญหา นั่นก็คือการสร้างหลุมหลบภัยทางอากาศแบบจำลองที่เคยจัดแสดงในงาน BKK Design Week เมื่อปี 2023 ที่ทาง CEA (Creative Economy Agency) ร่วมมือกับบริษัท ฉมา จำกัด (บริษัทภูมิสถาปนิกที่เน้นเรื่องสังคม) ความพิเศษของหลุมหลบภัยทางอากาศนี้คือการสร้างกระแสลมหมุนเวียนในพาวิลเลียนหรือโดมสีขาวขนาดใหญ่ ที่มีพัดลมขนาดใหญ่ดูดอากาศจากภายนอกผ่านระบบกรองอากาศหลายชั้นเข้ามาในพื้นที่ ไล่ตั้งแต่ไม้คลุมดิน ไม้ยืนต้น จากนั้นกรองด้วยแผ่นกรองฝุ่น และแผ่นกรองความเย็นตามลำดับ เพื่อให้อากาศภายในโดมถ่ายเทหมุนเวียน 

ถือเป็นแนวคิดที่ฉลาดไม่น้อย ที่โครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์คนำตัวอย่างของสวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อมาปรับใช้กับแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางเมืองที่กำลังจะเปิดในเร็ววัน และถึงแม้เราๆ จะมีสวนสาธารณะทางเลือกอยู่แล้วก็ตาม แต่ไม่แน่ว่าพื้นที่ที่ดูไกลตัวไปมากอย่าง Roof Park อาจเป็นอีกไลฟ์สไตล์คนเมืองให้ออกมาใช้ชีวิตในแบบที่มีทั้งกิจกรรมทางวัฒนธรรม การพบปะ หรือลานนั่งเล่นบนพื้นที่สีเขียว คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่า เมืองดีที่ทุกคนรอ…จะเป็นแบบไหน

Jeff Goldberg/ESTO
Photograph: Jeff Goldberg/ESTO
บทความล่าสุด
    การโฆษณา