Sumida Park
Photograph: aki/PIXTA
Photograph: aki/PIXTA

รวมจุดชมดอกไฮเดรนเยียที่ไม่ควรพลาด ทั้งในโตเกียวและรอบเมือง

ตามไปชมดอกไม้ต้นฤดูร้อนในวัดและสวนสวยๆ ทั่วโตเกียว ทั้งย่านอาซากุสะ สวนฮะมะริคิว ไปจนถึงสวนอุเอโนะ

แปลโดย: Natnicha Jarong
การโฆษณา

หากซากุระอยู่คู่กับฤดูใบไม้ผลิ ไฮเดรนเยียก็เป็นภาพจำของฤดูฝนของญี่ปุ่น มีชื่อเรียกว่า อะจิไซ (Ajisai) ในภาษาญี่ปุ่น ด้วยสีสันสดใสหลากเฉด ไม่ว่าจะเป็นฟ้า ม่วง ชมพู หรือขาวเหมือนหิมะ ซึ่งจะเริ่มบานช่วงปลายพฤษภาคมจนถึงต้นกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมีตำนานที่เล่าขานอีกว่า ถ้าเห็นหอยทากเกาะอยู่บนดอกไฮเดรนเยีย จะโชคดีตลอดทั้งฤดู

ช่วงเวลานี้ในทุกๆ ปี ดอกไฮเดรนเยียจะเริ่มบานตามสวนสาธารณะและวัดต่างๆ ทั่วโตเกียว ไม่ว่าจะเป็นสวนอุเอโนะ วัดทาคาฮาตะ ฟุโดซนในเขตฮิโนะ หรือแม้แต่ในพื้นที่ห่างไกลทางฝั่งตะวันตกของเมืองอย่างฟุจู ก็ยังมีพุ่มดอกไม้สีสดให้ได้ชมกัน แม้ว่าตอนนี้ดอกไฮเดรนเยียบางแห่งจะเริ่มบานแล้ว แต่ช่วงพีคจริงๆ กำลังจะมาถึง ถ้าใครอยู่ในญี่ปุ่นช่วงนี้ ขอแนะนำให้พกร่มคู่ใจแล้วออกไปเดินเล่นตามจุดชมไฮเดรนเยียกันดู รับรองว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจแน่นอน

  • Attractions

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานอย่างพิพิธภัณฑ์ป่าไม้ท้องถิ่นเมืองฟุจู มีดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งทั่วสวนขนาดใหญ่กว่า 140,000 ตารางเมตร กว่า 10,000 ดอก จาก 30 สายพันธุ์ บนถนนแอลนาเบลล์และเนินเขาแอลนาเบลล์ฮิลล์ ความพิเศษคือที่นี่เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียพันธุ์แอลนาเบลล์ สีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ นอกจากทุ่งดอกไม้แล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีบ้านไร่ บ้านเรือนพ่อค้า และอาคารเก่าแก่ที่บอกเล่าเรื่องราวในท้องถิ่น พร้อมจัดแสดงสิ่งของโบราณและวัตถุทางประวัติศาสตร์ให้ได้เรียนรู้กันอีกด้วย ที่ พิพิธภัณฑ์ป่าไม้ท้องถิ่นเมืองฟุจู ราคา 300 เยน ​​สำหรับผู้ใหญ่ และ 150 เยน สำหรับนักเรียนมัธยมต้นและเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 4 ปีเข้าฟรี)  เปิดให้เข้าชมวันที่ 31 พฤษภาคม - 7 กรกฎาคม เวลา 09.00 - 16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

  • Attractions

วัดทาคาฮาตะฟุโดซน เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 สวนภายในวัดจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกไฮเดรนเยียกว่า 7,500 ดอก จาก 200 สายพันธุ์ ใครไปถ่ายก็จะเห็น สีสันสดใสของดอกไม้ตัดกันอย่างสวยงามกับสีแดงชาดของเจดีย์ห้าชั้นที่สูง 45 เมตร และหากเดินขึ้นไปตามทางเขาด้านหลังวัด จะพบกับรูปปั้นพระจิโซะเล็ก ๆ 88 องค์ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา เนื่องจากวัดนี้เคยเป็นของสมาชิกคนสำคัญจากกลุ่มตำรวจพิเศษชินเซ็นกูมิในยุคเอโดะ ใน ปี 1603-1867 ภายในวัดก็มีรูปสลักไม้ของเทพฟุโดเมียวโอ ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่หนักถึง 1,100 กิโลกรัม ที่ วัดทาคาฮาตะฟุโดซน ราคา 500 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และเด็กเข้าชมฟรี เปิดให้เข้าชมตลอดเดือนมิถุนายนนี้ เวลา 09.00 - 17.00 น.

การโฆษณา
  • Attractions

สวนสุมิดะทอดตัวอยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำสุมิดะ แม้จะเป็นจุดชมวิวยอดฮิตในช่วงหน้าร้อนของเทศกาลดอกไม้ไฟ (Sumida River Fireworks Festival) แต่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ด้วยถนนสายดอกไม้ชื่อว่า ถนนอะจิไซ (Ajisai Road) ฝั่งย่านอาซากุสะ ใครเดินต้องมีลืมความเหนื่อยแน่นอน เพราะทางยาว 2 กิโลเมตรเส้นนี้เต็มไปด้วยพุ่มไฮเดรนเยียกว่า 7,000 ต้นจากหลากหลายสายพันธุ์บานสะพรั้งทั้งทาง แนะนำให้มาช่วงเช้าตรู่หรือตอนเย็น จะเป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่หนาแน่น บรรยากาศจะเงียบสงบ ยิ่งถ้าช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้เห็นแสงไฟจาก โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ค่อยๆ สว่างขึ้นจากอีกฝั่งของแม่น้ำด้วย ที่ สวนสุมิดะ เปิดให้เข้า เวลา 09.30 - 18.00 น.

  • Attractions

เพียงแค่ 1 นาทีจากสถานีทามากาวะ (Tamagawa) ก็จะได้พบกับความร่มรื่นของ สวนทามากาวะได ที่มีสวนไฮเดรนเยียแบบไล่ระดับ ไฮเดรนเยียกว่า 3,000 พุ่มจาก 7 สายพันธุ์ ที่เริ่มบานตั้งแต่ต้นจนถึงกลางเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะบริเวณทางเดิน บันได และเนินต่างๆ รอบสวนที่อยู่ใกล้กับสถานี สวนแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ดอกไม้สวยๆ เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น โคฟุนหรือเนินฝังศพโบราณ จุดชมวิว สวนพืชน้ำ และสวนดอกไม้ป่าตามฤดูกาลที่ต้องมารอชมในแต่ละช่วงปีที่จะเปลี่ยนไป ที่ สวนทามากาวะได

การโฆษณา
  • Attractions

พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียวที่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งปี และเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นด้วย อย่างที่รู้กันว่าต้องไปดูซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่นี่ แต่ในช่วงฤดูร้อนที่ไฮเดรนเยียบานก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียหลากหลายสายพันธุ์ตามสองข้างทางตามทางเดินในสวน โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม และถ้าเดินไปตรงกลางบ่อน้ำของสวน จะเจอพบกับวัดเล็กๆ บนเกาะที่ไม่เพียงแต่เงียบสงบ แต่ยังเป็นจุดถ่ายรูปสุดชิคสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ที่ สวนอุเอโนะ เปิดให้เข้าชม เวลา 05.00 - 23.00 น.

  • Attractions

อีกหนึ่งสวนที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดในโตเกียวอย่าง สวนริคุงิเอน ก็จัดกิจกรรมต้อนรับต้นฤดูร้อนด้วยดอกไฮเดรนเยียกว่า 1,000 พุ่ม จาก 15 สายพันธุ์ ไฮไลต์ของงานอยู่ที่ “ยามาอะจิไซ” ซึ่งเป็นไฮเดรนเยียสายพันธุ์ดั้งเดิมที่เติบโตตามธรรมชาติตั้งแต่สมัยโบราณ ถึงแม้จะไม่ได้มีสีสันสดใสหรือขนาดใหญ่เท่ากับไฮเดรนเยียทั่วไป แต่มีเสน่ห์ในแบบของมัน ด้วยสีที่เรียบและรูปร่างที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ภายในสวนยังมี ซัตสึกิอาซาเลีย (Satsuki Azaleas) เป็นพืชในวงศ์กุหลาบพันปี สีชมพูสดใส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดอกไม้พื้นเมืองของญี่ปุ่นที่กำลังบานในช่วงนี้ นอกจากนี้ตามจุดต่างๆ ในสวนจะมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ของไฮเดรนเยีย ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษอีกด้วย ที่ สวนริคุงิเอน ราคา 300 เยน (เด็กประถมและเด็กเล็กเข้าฟรี) เปิดให้เข้าชมวันนี้ - 23 มิถุนายน เวลา 09.00 - 16.30 น.

การโฆษณา
  • Attractions

อีกหนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมตั้งแต่สมัยเอโดะ ในปี 1603–1867 แต่ในช่วงต้นฤดูร้อน ที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันด้วย สวนไฮเดรนเยียที่บานเต็มที่ในเดือนมิถุนายน หนึ่งในไฮไลต์ของสวนคือ ถนนไฮเดรนเยียที่มีดอกไฮเดรนเยียเรียงรายกว่า 1,300 พุ่ม ตามทางลาดเลียบรางรถไฟสาย JR Keihin Tohoku แต่ถ้าใครมาในวันฝนตก ต้องระวังลื่นกันด้วย เพราะเส้นทางค่อนข้างแคบ นอกจากนี้สวนแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเขตคิตะ (Kita Ward) ที่ย้อนไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ที่ สวนอาสุกายามะ

  • Attractions

สวนฮามะริคิวซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าใกล้อ่าวโตเกียว นับว่าเป็นสวนญี่ปุ่นที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขตล่าสัตว์ของโชกุนตระกูลโทะกุงะวะในสมัยเอโดะ ในปี 1603–1868 ความพิเศษของสวนนี้ไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไฮเดรนเยียราว 175 พุ่ม จาก 7 สายพันธุ์ แต่มันจะบานพร้อมกับ ดอกไอริสญี่ปุ่นด้วย ซึ่งทั้งสองชนิดให้สีสันที่แตกต่างกันอย่างลงตัว ตัดกับฉากหลังของสวนสไตล์ญี่ปุ่นและตึกสูงโมเดิลอย่างสวยงาม ภายในสวนยังมีโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมหลายแห่งให้ได้แวะพักจิบชาเงียบๆ ให้ได้พักเติมพลังหลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆ ด้วย ที่ สวนฮามะริคิว ราคา 300 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (นักเรียนประถมและเด็กเล็กเข้าฟรี) เปิดให้เข้าชมวลา 09.00 - 16.30 น.

การโฆษณา
  • Attractions

หากใครที่มีเวลาจำกัด ต้องห้ามพลาดสวนไฮเดรนเยีย สวนเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความสงบและสีสัน สวนไฮเดรนเยียในเมืองโคไดระแห่งนี้ ตั้งขึ้นในปี 1973 มีพื้นที่ประมาณ 2,800 ตารางเมตร และทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน จะมีดอกไฮเดรนเยียกว่า 1,500 พุ่ม บานไปทั้งสวน ดอกไฮเดรนเยียจะเรียงรายตามทางเดินริมฟุตบาท บันไดหิน และล้อมรอบบ่อน้ำที่มีดอกบัวสีชมพูอ่อนลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างบรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนอย่างแท้จริง สวนนี้เดินจากสถานีโคไดระ (Kodaira Station) สายเซบุชินจูกุ (Seibu Shinjuku Line) เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ที่ สวนไฮเดรนเยีย เมืองโคไดระ

วัดในเมืองคามาคุระ (Temples in Kamakura)

จุดชมสุดท้ายอย่างวัดในเมืองคามาคุระ แวะชมไฮเดรนเยียสวยๆ ที่คามาคุระกับวัดชื่อดังสามแห่งในช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งอย่างเต็มที่ สามารถขึ้นรถไฟสาย โชนัน-ชินจูกุ (Shonan-Shinjuku Line) จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ไปลงที่สถานี คิตะ-คามาคุระ (Kita-Kamakura Station) และจากสถานีเดินไม่ไกล ก็จะเจอกับวัดสำคัญสามแห่งในย่านนี้ ได้แก่ โทเคเอจิ (Tokei-ji), โจจิ-จิ (Jochi-ji) และ เมเง็ตสึอิน (Meigetsu-in) บอกเลยว่า มาที่เดียวมีทั้งไฮเดรนเยีนสีฟ้า ม่วง และชมพู ให้ได้ชมกันอย่างจุใจแน่นอน ที่ วัดในเมืองคามาคุระ 

การโฆษณา

เทศกาลดอกไฮเดรนเยีย ฮัคเคอิจิมะ (Hakkeijima Hydrangea Festival)

ถ้าใครอยู่แถวโยโกฮาม่าในช่วงมิถุนายน ต้องห้ามพลาดเทศกาลชมดอกไฮเดรนเยียสุด
ชิลอย่าง Hakkeijima Hydrangea Festival บนเกาะฮัคเคอิจิมะ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 25 แล้ว สามารถนั่งรถไฟจากโยโกฮาม่ามามาเกาะฮัคเคอิจิมะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อชมความสวยงามของไฮเดรนเยียกว่า 20,000 ต้น ที่บานสะพรั่งทั่วเกาะ โดยไฮไลต์อยู่ที่พันธุ์ Hakkei-blue ดอกสีน้ำเงินพื้นเมืองที่ปลูกขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของสวนสนุก Hakkeijima Sea Paradise แนะนำให้ทำกิจกรรมเดินตามจุดชมดอกทั้ง 8 แห่งทั่วเกาะ แล้วสะสมแสตมป์อย่างน้อย 5 จุด เพื่อรับส่วนลด 50% สำหรับนั่งเรือ Paradise Cruise รวมถึงสามารถใช้เป็นส่วนลดร้านค้าและร้านอาหารที่ร่วมรายการบนเกาะได้ด้วย หากเดินเล่นจนเหนื่อย ก็แวะพักเติมพลังที่ร้าน Cable Car Coffee เป็นคาเฟ่ที่อยู่บนเกาะ ที่นี่จะมีเมนูธีมดอกไม้สวยๆ เช่น ชามะนาวไฮเดรนเยีย (Hydrangea Lemon Tea) แก้วละ 520 เยน ที่และที่สำคัญมุมร้านถ่ายรูปขึ้นสุดๆ ที่ เทศกาลดอกไฮเดรนเยีย ฮัคเคอิจิมะ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 7 - 29 มิถุนายน เวลา 10.00 - 16.00 น.

  • Attractions

แต่ถ้าต้องการไปชมดอกไม้กลางธรรมชาติในวันหยุดสั้นๆ แบบไม่อยากออกนอกโตเกียว ที่นี่ก็ตอบโจทย์สุดๆ เทศกาลดอกไฮเดรนเยีย ณ วันเดอร์ฟูล เนเชอร์ วิลเลจ ซึ่งอยู่ติดกับสวนสนุก Tokyo Summerland ไฮไลต์ของที่นี่คือทุ่งดอกไฮเดรนเยียสีขาวนวล กว่า 15,000 ต้น ที่เบ่งบานเต็มโซนในเนินเขาของสวนขนาดใหญ่ และจะบานเต็มที่ช่วงปลายมิถุนายน ไม่ได้มีเพียงแค่ไฮเดรนเยียสีขาวเท่านั้น ที่นี่ยังมีพันธุ์พื้นเมืองญี่ปุ่นอย่าง Kurohime และ Ezohoshino ที่มีสีฟ้าสดใส จะเริ่มบานเต็มที่ช่วงกลางถึงปลายมิถุนายน แวะมาถึง Tokyo Summerland สวนน้ำสุดฮิตทั้งที ต้องไม่เสียเที่ยว สามารถแวะไปเล่นน้ำดับร้อนที่นี่ได้ด้วย เรียกได้ว่ามาครั้งเดียวได้ครบจบ สวนน้ำนี้มีทั้งสระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่ ที่เล่นได้ทุกสภาพอากาศ และสระน้ำกลางแจ้งแบบลำธารยาว 650 เมตร (ต้องจองบัตรล่วงหน้า) สามารถเดินทางจากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟสาย Keio ไปลงที่สถานี Keio Hachioji จากนั้นต่อรถบัส ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีก็จะถึง ที่ Wonderful Nature Village เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม เวลา 9.00 - 17.00 น.

เรื่องเด่น
    การโฆษณา