[title]
ห้านาทีอาจยืดยาวดั่งชั่วนิรันดร์เมื่ออยู่กับคนที่ไม่ใช่ หรืออาจผ่านไปเพียงพริบตาเดียวเมื่อหัวใจเผลอคลิกกับใครบางคน สำหรับเรา ห้านาทีนั้นกลับรู้สึกเหมือนค็อกเทลรสจัดจ้านหวานละมุน ขมฝาด และเจือรสเปรี้ยวที่ชวนให้นึกคิด นั่นแหละคือรสชาติของค่ำคืนแห่งสปีดเดตกลางกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่โอบล้อมด้วยธงสีรุ้ง บาร์รูฟท็อป และบรรยากาศแห่งเสน่หา ที่ดูเหมือนความรักจะลอยอยู่ในอากาศ รอแค่เพียงคว้าไว้ แต่ทำไมการหาคนที่ ใช่ กลับไม่ง่ายเหมือนการยกแก้วดริ้งที่สีลม ท่ามกลางสัญญาณที่คลุมเครือ คำพูดครึ่งๆ กลางๆ และผู้ชายที่มักเอ่ยว่า “ยังไม่ได้มองหาอะไรจริงจัง” เราอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่าความรักในยุคนี้เป็นเพียงเกมแห่งการนับแต้ม หรือบางทีเราแค่หลงเข้าไปในสนามแข่งที่ไม่เคยตั้งใจจะเข้าแข่งตั้งแต่แรก
ในฐานะคนที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์จริงจังมาก่อนเลยในชีวิต เราเริ่มรู้สึกว่า บางทีการลองเปิดใจให้กับโลกแห่งความเป็นจริง อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเลื่อนซ้ายเลื่อนขวาอยู่บนหน้าจอเล็กๆ ที่เราเรียกว่า ‘ความรักยุคดิจิทัล’ หรือที่เรามักเรียกติดตลกกับตัวเองว่า ‘การช้อปปิ้งผู้ชายออนไลน์’ ที่จบลงด้วยบทสนทนาเดิมๆ ซ้ำซาก ไม่ต่างจากการเปิดพัสดุที่สั่งมาโดยที่รู้ดีว่าข้างในคืออะไร มันเป็นตอนนั้นเองที่ความคิดหนึ่งแวบเข้ามา บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นจากเตียง ถึงเวลาที่จะออกจากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ และออกจากตัวตนในโลกออนไลน์ที่เราสร้างไว้ แล้วไปเผชิญหน้ากับความเป็นมนุษย์อีกครั้ง ถึงอาจจะไม่ได้เจอรักแท้ แต่อย่างน้อยก็ได้ยินเสียงหัวเราะ ได้ยกแก้วชนกับใครสักคน ได้สบตาโดยไม่ต้องมีฟิลเตอร์หรืออาจได้พบเพื่อนใหม่ ที่มีหัวใจเต้นจังหวะเดียวกันก็ยังดี
และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นที่เราได้รู้จักกับ OMG Matchmaking ผู้จัดงานสปีดเดตในทุกเดือน ผู้ที่เปิดประตูต้อนรับความรักในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง เควียร์ คนที่กำลังค้นหาตัวเอง หรือแม้แต่คนที่ยังนิยามสถานะของตัวเองว่า ‘มันซับซ้อน’ เป็นครั้งแรกที่ความรักไม่รู้สึกเหมือนต้องผ่านการคัดกรองด้วยอัลกอริทึมหรือสูตรสำเร็จอะไรทั้งนั้น แต่มันกลับรู้สึก... เป็นไปได้ อย่างแท้จริง ในค่ำคืนที่เหมือนการหมุนวงล้อแห่งหัวใจ ที่เราไม่อาจเดาได้ว่าโชคจะตกที่ใคร หรือแม้แต่จะตกหรือเปล่า มีอะไรรออยู่บ้างในเกมแห่งความรู้สึกนี้ เราจะเล่าให้ฟัง ตั้งแต่เริ่มต้นแบบหมดเปลือก
บรรยากาศก่อนเริ่มเกมรัก

ก่อนจะได้ส่งสายตาหวานเยิ้มและจุดประกายไฟในห้านาที ก็ยังมีอีกช่วงที่ไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไหร่ นั่นคือการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ใช่แล้ว ความรักในยุคนี้เริ่มต้นที่หน้าจอ เราซื้อตั๋วงานผ่านเว็บไซต์ แล้วก็กรอกรายละเอียดสำคัญ รายละเอียดที่เขาบอกว่าจะช่วยจับคู่กับเนื้อคู่ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง (ใช่...แบบไหนนั่นแหละ) ไปจนถึงไบโอขี้เล่นสั้นๆ ทั้งหมดนี้จะไปโผล่อยู่ในเดตชีตของคุณ คำแนะนำของจากเราคือจงซื่อสัตย์ ใส่ความเป็นที่มีตัวเองตลกลงไปเล็กน้อย และใส่อะไรที่สามรถเป็นทอปิคในการเริ่มต้นบทสนทนา เพราะไม่มีอะไรโรแมนติกไปกว่าการเห็นคำพูดของตัวเองอยู่ในกระดาษเล็กๆ แล้วมีคนแปลกหน้าแสกนข้อมูลของเราพร้อมกับถือแก้วค็อกเทลในมือ
งานจัดขึ้นที่โรงแรม SO/ Bangkok พอมาถึงเราก็เช็กอินกับทีมงานและได้รับป้ายชื่อ ที่มีกลุ่มที่อยู่ และโต๊ะเริ่มต้น นอกจากนี้ยังได้ลิสต์กิจกรรมและรายชื่อหนุ่มโสด 17 คน พร้อมไบโอของแต่ละคนแบบครบถ้วน เรียกได้ว่าเหมือน LinkedIn เวอร์ชันเกย์ที่แอบมีความเซ็กซี่ ห้องจัดงานตกแต่งด้วยแสงไฟสลัวเจือโทนแดงพอให้หัวใจเต้นเล่นๆ โซฟานุ่มๆที่ออกแบบมาเพื่อเสริมให้คนอยากพูดคุยกันมากขึ้น และกลิ่นในอากาศที่บรรยายได้คำเดียวว่า ยั่วยัว ในงานมีผู้ร่วมงานกว่า 70 คน กระจายอยู่ในสามกลุ่ม หนุ่มเกย์ หนุ่มหมี และสายซัฟฟิก บรรยากาศชวนให้คึกคัก แต่ไม่อึดอัด มันคือความวุ่นวายที่ถูกจัดสรรอย่างลงตัวในแบบที่ดีที่สุด หนุ่มๆ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย และนักท่องเที่ยวบางคนที่แวะมาเที่ยว แต่ดูเหมือนนักท่องเที่ยวบางคนก็อยากลองชิมรสโรแมนติกแบบบางกอกดูบ้าง กลุ่มอายุโดยรวมอยู่ที่ช่วงปลายยี่สิบถึงต้นสามสิบ และก็มีบางคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับเรา ซึ่งขอบอกว่า มันเพิ่มความตื่นเต้นให้ค่ำคืนนั้นไม่น้อย เพื่อไม่ให้บรรยากาศอ่อม เราทุกคนได้รับเครื่องดื่มต้อนรับจากเลานจ์ ซึ่งออกแบบเมนูพิเศษธีม Pride สำหรับคืนนี้โดยเฉพาะ แน่นอนว่าเราเลือกแก้วที่ชื่อว่า ‘Cheer’ แล้วจู่ๆ ไฟในใจก็ติดและพร้อมลุย
ได้เวลาเริ่มเกมรัก

ก่อนที่เสียงกระดิ่งจะดัง และเดทจะเริ่มขึ้น เอ็มซีก็ออกมาไล่เรียงกติกาให้เข้าใจแบบละเอียดทุกข้อ กลุ่มเกย์ถูกจัดให้อยู่ใน ทีม A ซึ่งถูกแบ่งย่อยเป็น A1 และ A2 อีกที ฝั่ง A1 คือกลุ่มรับ และโบทรับ พูดง่ายๆ คือฝ่ายนั่งประจำโต๊ะ ส่วน A2 ก็คือกลุ่มรุกและโบทรุก หรือฝ่ายเดินสาย และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นทีม A2 ขอบอกเลยว่าช่วงแรกๆ แอบงงเล็กน้อย แต่โชคดีที่สตาฟใจดี คอยแนะนำเราอยู่ตอลด จากนั้นทุกอย่างก็สตาร์ท
เดตแรกของเราคือผู้ชายที่โต๊ะหมายเลข 13 บทสนทนาเริ่มต้นแบบทั่วไป ‘เคยมาครั้งแรกหรือเปล่า?‘ ‘ทำงานอะไรอยู่เหรอ?‘ ‘มองหาอะไรอยู่ตอนนี้?‘ ‘ว่างๆ ชอบทำอะไร?‘ ปกติแล้วถ้าเป็นในแอปฯ เราคงกลอกตาใส่คำถามจำเจพวกนี้ไปแล้ว แต่พอได้ฟังมันจากปากคนจริงๆ ที่นั่งอยู่ตรงหน้า แถมมีดริ้งอยู่ในมือ มันกลับรู้สึกแตกต่างออกไป มันรู้สึกอบอุ่นขึ้นและดูเป็นธรรมชาติน่าคุยมากกว่าที่คิดไว้ ทุกคนล้วนมีเรื่องเล่าของตัวเอง หรืออย่างน้อยที่สุด ก็มีงานอดิเรกที่ฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้ บางคนก็เคยมาร่วมงานนี้แล้วถึงสองสามครั้ง ยังคงตามหารักแท้แบบไม่ยอมแพ้ มีคนหนึ่งเล่าให้ฟังด้วยตาเป็นประกายว่า เพื่อนของเขาเคยไปงานสปีดเดตในประเทศบ้านเกิด แล้วก็ได้พบกับใครบางคนิที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตในที่สุด
ปิดฉากค่ำคืนแห่งรัก

เมื่อรอบสุดท้ายจบลง เราก็ส่งกระดาษที่ติ๊กชื่อคนที่เราถูกใจคืนให้กับทีมงาน นี่แหละ ช่วงเวลาแห่งความจริง เราแอบชอบใคร...แล้วเขาจะชอบเรากลับไหมนะ? หลังจากนั้น บรรยากาศก็ผ่อนคลายลง เปลี่ยนโหมดเป็นการแฮงเอาต์สบายๆ บางคนยังนั่งคุยกันต่อแบบกลมกล่อม แลกไลน์ แลกไอจี เผื่อเอาไว้สานต่อ บางกลุ่มเริ่มจับกลุ่มกันวางแผนต่อกันที่บาร์หรือคลับ ส่วนอีกไม่กี่คนค่อยๆ ละลายหายไปในความมืดแบบเงียบๆ ไม่ทิ้งแม้แต่เงา
สิ่งหนึ่งที่แอบเสียดายอยู่หน่อยๆ ก็คือ เราไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับคนจากทีมเดียวกันเลย ทั้งที่บางคนดูน่าสนใจไม่น้อย แต่ก็อย่างว่า คิวปิดมีลูกศรอยู่แค่จำนวนหนึ่ง และคืนนี้เขาก็ยิงได้ไม่ครบทุกเป้า อย่างไรก็ตามฉันก็กลับออกมาพร้อมอะไรที่มีค่าเช่น มิตรภาพใหม่ๆ มุมมองแที่แตกต่าง และบทสนทนาที่เต็มไปด้วยด้วความมีชีวิตชีวาและความรักกลางมหานครอันแสนบ้าคลั่งแห่งนี้
เช้าวันถัดมา ผลลัพธ์ก็เด้งเข้ามาในอีเมล เราติ๊กชื่อไปหกคน และมีห้าคนที่ติ๊กเรากลับ ไม่เลวเลยสำหรับมือใหม่หัดเดต ในอีเมลทางทีมงานจะแนบชื่อและช่องทางติดต่อของคนที่แมตช์กันมาให้เรียบร้อย
ที่เหลือก็อยู่ที่เราแล้ว จะทักไปชวนคุย นัดเจอกันสั้นๆ หรือปล่อยให้เรื่องราวค่อยๆ เดินทางไปในแบบของมันเอง ก็แล้วแต่ใจเราเลย
เคล็ด(ไม่)ลับฉบับโปร

ยิ้มไว้ เปิดใจให้กว้าง อย่าคาดหวังว่าอะไรมากมาย แต่จงเตรียมพร้อมเสมอสำหรับ “บางอย่าง” ที่อาจเกิดขึ้น เพราะถึงค่ำคืนนั้นจะไม่ได้จบลงด้วยความรัก แต่มิตรภาพดีๆ ก็เบ่งบานขึ้นมาแทนได้ และเอาจริงๆ แค่นั้นก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเริ่มเบื่อกับการโดนเทกลางอากาศ เบื่อการปัดซ้ายขวาบนแอป หรือแค่รู้สึกเขินเกินกว่าจะชวนใครคุยที่บาร์ กิจกรรมสปีดเดตของ OMG Matchmaking อาจเป็นปุ่มรีเฟรชที่ชีวิตรักของคุณกำลังต้องการ
ลองเข้าไปดูตารางรอบถัดไปในเว็บไซต์ของ OMG Matchmaking
เพราะบางครั้ง…แค่ห้านาที กับไฟแดงสลัวๆ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเปลี่ยนทุกสิ่ง